DeFi คืออะไร
คำจำกัดความ
DeFi ย่อมาจาก decentralized finance ซึ่งก็คือการเงินแบบกระจายอำนาจ คำนี้มีความหมายกว้างๆ หมายถึงบริการทางการเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ในบ ล็อกเชนสาธารณะ ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นของอีเธอร์เรียม
DeFi (หรือ “การเงินแบบกระจายอำนาจ”) เป็นคำที่มีความหมายกว้างๆ ที่หมายถึงบริการทางการเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ในบล็อกเชนสาธารณะ ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นของอีเธอร์เรียม DeFi ช่วยให้คุณดำเนินธุรกรรมได้หลากหลายตามที่ธนาคารรองรับ ทั้งรับดอกเบี้ย กู้ยืม ให้กู้ยืม ซื้อประกัน ซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ซื้อขายสินทรัพย์ และอีกมากมาย ซึ่งทำได้รวดเร็วกว่าและไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารหรือมีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับเงินดิจิทัลโดยทั่วไป DeFi จึงมีความเป็นสากลและมีลักษณะแบบเพียร์ทูเพียร์ (เป็นลักษณะของการเชื่อมโยงของบุคคลสองคนโดยตรง ไม่ผ่านระบบกลาง) นอกจากนี้ยังไม่ต้องระบุตัวตนและเปิดกว้างสำหรับทุกคน
DeFi สำคัญอย่างไร
DeFi นำเอาหลักพื้นฐานของบิตคอยน์ นั่นก็คือ การเป็นเงินดิจิทัล มาใช้และต่อยอดออกไปเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับตลาดหลักทรัพย์แบบดิจิทัลโดยสมบูรณ์ ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด (เช่น ค่าใช้จ่ายด้านอาคารสำนักงาน ห้องค้าหลักทรัพย์ เงินเดือนพนักงานธนาคาร) สิ่งนี้ช่วยมอบโอกาสในการสร้างตลาดทางการเงินที่เปิดกว้าง เป็นเสรี และมีความยุติธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกคนที่มีอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้
มีข้อดีอะไรบ้าง
แบบเปิด: ไม่จำเป็นต้อง “เปิด” บัญชีหรือสมัครอะไรทั้งสิ้น คุณสามารถเข้าใช้งานได้หลังจากสร้างกระเป๋าเงินแล้ว
ไม่ต้องระบุตัวตนที่แท้จริง: ไม่จำเป็นต้องระบุชื่อ ที่อยู่อีเมล หรือข้อมูลส่วนตัว
ยืดหยุ่น: คุณสามารถย้ายสินทรัพย์ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องขออนุญาต ไม่ต้องรอให้การโอนที่ยาวนานเสร็จสิ้น และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแพง
รวดเร็ว: อัตราดอกเบี้ยและรางวัลมักจะมีการอัปเดตอย่างรวดเร็ว (ความรวดเร็วอยู่ที่ทุก 15 วินาที) และให้อัตราที่สูงกว่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วไปอย่างมาก
โปร่งใส: ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะเห็นธุรกรรมทั้งหมดโดยสมบูรณ์ (ปกติแล้วองค์กรของเอกชนมักไม่เผยข้อมูลในลักษณะที่โปร่งใสเช่นนี้)
ทำงานอย่างไร
ปกติแล้วผู้ใช้จะเข้าถึง DeFi ได้ผ่านซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า dapps (“decentralized apps” หรือแอปแบบกระจายอำนาจ) ซึ่ง dapps ส่วนใหญ่ในปัจจุบันทำงานบนบล็อกเชนของอีเธอร์เรียม สิ่งที่แตกต่างจากธนาคารแบบเดิมๆ ทั่วไปคือ ไม่ต้องกรอกเอกสารการสมัครหรือไม่ต้องเปิดบัญชีใดๆ เลย
และนี่คือตัวอย่างการใช้งานใน DeFi ของผู้ใช้ในปัจจุบัน
ให้กู้ยืม: ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินดิจิทัลแล้วรับดอกเบี้ยและรางวัลในทุกๆ นาที ไม่ใช่แค่เพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน
ขอสินเชื่อ: รับสินเชื่อได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ ทั้งสินเชื่อระยะสั้นกว ่าปกติ สินเชื่อด่วนพิเศษที่เรียกว่า “flash loan” ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่มีในสถาบันการเงินทั่วไป
ซื้อขาย: ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทแบบเพียร์ทูเพียร์ได้เหมือนกับการซื้อและขายหุ้นโดยไม่ผ่านโบรกเกอร์
เก็บออมเพื่ออนาคต: นำเงินดิจิทัลบางส่วนเก็บไว้ในช่องทางที่คล้ายกับบัญชีออมทรัพย์ และรับดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าที่ธนาคารให้
ซื้อตราสารอนุพันธ์: เดิมพันสินทรัพย์บางประเภททั้งในระยะสั้นและระยะยาว ลองนึกถึงสิ่งนี้เป็นสิทธิในการซื้อขายหุ้นหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบฟิวเจอร์ส แต่เป็นในรูปแบบเงินดิจิทัล
มีข้อเสียอะไรบ้าง
อัตราของการทำธุรกรรมที่ผันผวนในบล็อกเชนของอีเธอร์เรียมเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าการซื้อขายเพื่อทำกำไรระยะสั้นอาจมีราคาสูงขึ้น
การลงทุนของคุณอาจมีความผันผวน ขึ้นอยู่กับ dapps และวิธีการที่ใช้ ซึ่งนี่คือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่
คุณจะต้องจัดเก็บบันทึกของตัวเองเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ในการจัดการภาษี โดยข้อบังคับอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค