สกุลเงินดิจิทัลคืออะไร
บิตคอยน์ อีเธอร์เรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ กำลังปฏิวัติวิธีการลงทุน การทำธุรกรรมทางธนาคาร และการใช้เงินของเรา อ่านคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นนี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
ตามหลักแล้ว สกุลเงินดิจิทัลมักเป็นเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจที่ออกแบบมาเ พื่อใช้บนอินเตอร์เน็ต บิตคอยน์ ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลประเภทแรกและยังคงเป็นรายใหญ่ที่สุด มีอิทธิพลมากที่สุด และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในปัจจุบัน ในทศวรรษที่ผ่านมา บิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เช่น อีเธอร์เรียม ได้เติบโตขึ้นเป็นทางเลือกดิจิทัลนอกเหนือจากเงินที่ออกโดยรัฐบาล
สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ได้แก่ บิตคอยน์, Ethereum, Tether และ Solana สกุลเงินดิจิทัลที่รู้จักกันดีอื่นๆ ได้แก่ Tezos, EOS และ ZCash บางสกุลก็คล้ายคลึงกับบิตคอยน์ บางสกุลใช้เทคโนโลยีต่างกัน หรือมีฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ใช้งานได้มากกว่าการโอนมูลค่า
สกุลเงินดิจิทัลทำให้สามารถโอนมูลค่าทางออนไลน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคนกลางเช่น ธนาคาร หรือตัวดำเนินการชำระเงิน ช่วยให้โอนมูลค่าไปทั่วโลกได้ในแทบจะทันที ตลอด 24 ชั่วโมง และมีค่าธรรมเนียมต่ำ
โดยปกติแล้ว รัฐบาลหรือหน่วยงานกลางใดก็ตามไม่ใช่ผู้ออกหรือควบคุมสกุลเงินดิจิทัล โดยสกุลเงินดิจิทัลได้รับการคุ้มครองโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบเพียร์ทูเพียร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยทั่วไปแล้ว ทุกคนที่ต้องการเข้าร่วมสามารถทำได้
หากธนาคารหรือรัฐบาลไม่ได้มีส่วนร่วม แล้วสกุลเงินดิจิทัลจะปลอดภัยได้อย่างไร สกุลเงินดิจิทัลปลอดภัยเพราะธุรกรรมทั้งหมดได้รับการตรวจสอบโดยเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน
บล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัลนั้นคล้ายกับงบดุลหรือบัญชีแยกประเภทของธนาคารแต่ละสกุลเงินจะมีบล็อกเชนเป็นของตนเอง ซึ่งจะบันทึกธุรกรรมทุกรายการที่เกิดจากการใช้สกุลเงินนั้น โดยเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีการตรวจสอบยืนยันสม่ำเสมอ
และไม่เหมือนบัญชีแยกประเภทของธนาคารตรงที่ว่า บล็อกเชนสกุลเงินดิจิทัลจะกระจายไปยังผู้เข้าร่วมของทั้งเครือข่ายของสกุลเงินดิจิทัล
ไม่มีบริษัท ประเทศ หรือบุคคลที่สามใดควบคุมบล็อกเชนบิตคอยน์ได้ และทุกคนสามารถเข้ามามีส่ วนร่วมได้ บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จากหลายทศวรรษของนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์
สิ่งสำคัญที่สุดคือ สกุลเงินดิจิทัลช่วยให้แต่ละบุคคลควบคุมสินทรัพย์ของตนเองได้อย่างเต็มที่
วิสัยทัศน์ของ Brian Armstrong ซึ่งเป็น CEO ของ Coinbase ต่ออนาคตของสกุลเงินดิจิทัล
แนวคิดหลัก
โอนได้ สกุลเงินดิจิทัลทำให้การทำธุรกรรมกับบ ุคคลอื่นในอีกซีกโลกหนึ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น เสมือนกับการจ่ายด้วยเงินสดที่ร้านขายของชำใกล้บ้านคุณ
เป็นส่วนตัว ในการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล คุณไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องให้ผู้ค้าทราบ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลทางการเงินของคุณจะได้รับการปกป้องเพื่อไม่ให้นำไปเปิดเผยกับบุคคลที่สาม เช่น ธนาคาร บริการชำระเงิน ผู้โฆษณา และหน่วยงานจัดอันดับเครดิต และเนื่องจากไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนผ่านทางอินเทอร์เน็ต จึงมีค วามเสี่ยงน้อยมากที่จะมีการบุกรุกข้อมูลทางการเงินหรือขโมยข้อมูลประจำตัวของคุณ
มั่นคง สกุลเงินดิจิทัลเกือบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ อีเธอร์เรียม Tezos และ Bitcoin Cash มีความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่าบล็อกเชน ซึ่งได้รับการตรวจสอบและยืนยันอย่างสม่ำเสมอจากพลังการคำนวณจำนวนมาก
ถือครองได้อย่างคล่องตัว เนื่องจากการถือครองสกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่ได้ผูกอยู่กับสถาบันการเงินหรือรัฐบาล สกุลเงินดิจิทัลจึงพร ้อมให้คุณใช้ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก หรือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวกลางสำคัญของระบบการเงินทั่วโลกก็ตาม
โปร่งใส ธุรกรรมทุกรายการบนเครือข่ายบิตคอยน์ อีเธอร์เรียม Tezos และ Bitcoin Cash จะได้รับการเปิดเผยให้เป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีช่องว่างให้เกิดการบิดเบือนข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรม เปลี่ยนแปลงอุปสงค์ของเงิน หรือปรับกฎกลางเกม
ไม่มีการเรียกคืน การชำระด้วยเงินดิจิทัลต่างจากการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตตรงที่ว่า เมื่อชำระแล้วจะไม่สามารถเรียกคืนได้ ซึ่งนี่จะช่วยลดโอกาสถูกฉ้อโกงลงได้อย่างมากสำหรับผู้ค้า และสำหรับลูกค้า เงินดิจิทัลมีส่วนช่วยให้การซื้อขายถูกลงกว่าเดิม โดยขจัดหนึ่งในข้อโต้แย้งสำคัญที ่บริษัทบัตรเครดิตเป็นผู้ร้องขอเพื่อให้ได้รับค่าธรรมเนียมการดำเนินการในจำนวนที่สูง
ปลอดภัย เครือข่ายที่ส่งกำลังให้บิตคอยน์ไม่เคยถูกแฮ็ก และแนวคิดพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลจะช่วยทำให้สกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัย กล่าวคือ ระบบของสกุลเงินดิจิทัลเป็นแบบไม่มีการอนุญาต อีกทั้งซอฟต์แวร์หลักเป็นแบบโอเพ่นซอร์ส จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักเข้ารหัสจำนวนมากสามารถตรวจสอบเครือข่ายและความปลอดภัยได้ในทุกๆ ด้าน
เหตุใดสกุลเงินดิจิทัลจึงเป็นอนาคตของการเงิน
สกุลเงินดิจิทัลเป็นทางเลือกแรกนอกเหนือจากระบบธนาคารแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบอันมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าวิธีการชำระเงินแบบเดิมและประเภทของสินทรัพย์แบบดั้งเดิม ลองนึกว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินเวอร์ชัน 2.0 เงินสดแบบใหม่ที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นวิธีแลกเปลี่ยนมูลค่าที่รวดเร็วที่สุด ง่ายที่สุด ถูกที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเป็นสากลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก
สกุลเงินดิจิทัลสามารถใช้เพื่อซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ได้ หรือถือครองเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนก็ได้ แต่หน่วยงานส่วนกลางใดๆ ก็ไม่สามารถจัดการสกุลเงินดิจิทัลได้เพราะไม่มีหน่วยงานดังกล่าวอยู่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐบาล สกุลเงินดิจิทัลของคุณจะยังคงปลอดภัย
สกุลเงินดิจิทัลมอบโอกาสที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเกิดหรืออาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม ตราบใดที่คุณมีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ คุณก็เข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
สกุลเงินดิจิทัลสร้างโอกาสที่ไม่เหมือนใครเพื่อการขยายอิสรภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก ความไร้ขอบเขตที่สำคัญของสกุลเงินดิจิทัลนี้เอื้อต่อการค้าที่เสรี แม้ในประเทศที่รัฐ บาลควบคุมการเงินของประชาชนอย่างเข้มวงด ในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อคือปัญหาสำคัญ สกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือจากเงินตราที่ไม่สามารถช่วยในเรื่องการออมและการชำระเงินได้อย่างสมบูรณ์
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนที่กว้างขึ้น เงินดิจิทัลจึงสามารถเข้าถึงได้หลายวิธี หนึ่งในวิธีนั้นคือการซื้อและถือครองสินทรัพย์อย่างเช่นบิตคอยน์ ซึ่งเปลี่ยนจากของไม่มีค่าบนโลกออนไลน์ในปี 2008 มาเป็นของที่มีมูลค่านับพันดอลลาร์ต่อเหรียญอย่างในปัจจุบัน อีกหนึ่งแนวทางน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่ต้องลงแรงมากขึ้น นั่นคือการซื้อและขายเงินดิจิทัลที่ต้องเจอกับความผันผวน
หนึ่งในตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่อยากรู้เกี่ยวกับเงินดิจิทัลและไม่ต้องการความเสี่ยงมากคือ USD Coin ซึ่งถูกตรึงแบบ 1:1 กับมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้ประโยชน์เฉกเช่นเดียวกับเงินดิจิทัล ทั้งความสามารถในการโอนเงินข้ามประเทศได้อย่างรวดเร็วและราคาถูก พร้อมความเสถียรแบบสกุลเงินดั้งเดิม ลูกค้าของ Coinbase ที่ถือครอง USDC จะได้รับรางวัล ทำให้ USDC เป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดใจ นอกเหนือจากบัญชีเงินฝากแบบเดิมๆ
สกุลเงินดิจิทัลให้โอกาสที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเกิดหรืออาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม
ทำไมจึงต้องลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
ตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์เช ่น Coinbase ทำให้การซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลนั้นง่าย ปลอดภัย และคุ้มค่า
ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการสร้างบัญชีที่ปลอดภัย จากนั้นคุณซื้อสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้บัตรเดบิตหรือบัญชีธนาคารได้
ซื้อเงินดิจิทัลในจำนวนเล็กน้อย (หรือมาก) ได้ตามต้องการ เนื่องจากคุณซื้อแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของเหรียญก็ได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อบิตคอยน์ในมูลค่าแค่ 25 ดอลลาร์ได้
สกุลเงินดิจิทัลหลายรายการซึ่งรวมถึง USD Coin และ Tezos ให้รางวัลแก่ผู้ถือครองเพียงเพราะแค่มีเหรียญเหล่านั้นอยู่
บน Coinbase คุณมีสิทธิ์ได้รับผลตอบแทน 1% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนที่ได้รับจากบัญชีออมทรัพย์แบบดั้งเดิมอยู่มาก
นอกจากนี้คุณยังรับผลตอบแทนได้สูงสุดถึง 5% ต่อปีเมื่อใช้ Tezos ค้ำประกันบน Coinbase ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัลจากการค้ำประกัน Tezos
คุณโอนสกุลเงินดิจิทัลให้บุคคลอื่นหรือใช้ชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแตกต่างจากหุ้นหรือพันธบัตร
ผู้คนนับล้านถือครองบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในพอร์ตการลงทุนของตน
เหรียญที่มีราคาคงที่คืออะไร
USD Coin คือตัวอย่างของสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า เหรียญที่มีราคาคงที่ ซึ่งเปรียบได้กับส กุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลก็ได้ โดย USD Coin ออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนและสร้างประโยชน์สูงสุด เหรียญที่มีราคาคงที่มีคุณลักษณะที่ดีที่สุดของสกุลเงินดิจิทัลบางประการ (การทำธุรกรรมทั่วโลกได้อย่างราบรื่น มีความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว) ซึ่งมาพร้อมกับมูลค่าที่เสถียรเฉกเช่นสกุลเงินแบบกระดาษ
เหรียญที่มีราคาคงที่สามารถทำเช่นนี้โดยการปักหมุดมูลค่าเข้ากับปัจจัยภายนอก โดยทั่วไปแล้ว ปัจจัยภายนอกคือเงินกระดาษ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ
ดังนั้น ในแต่ละวันมูลค่าจึงไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด เสถียรภาพนี้ช่วยเพิ่มประโยชน์สำหรับการใช้เงินในแต่ละวัน เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ค้ามั่นใจได้ว่ามูลค่าของธุรกรรมที่ทำจะยังค่อนข้า งคงที่ในกรอบเวลาที่ยาวขึ้น
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นวิธีการออมเงินที่ประหยัดและเสถียร เหมือนดังบัญชีเงินฝากธนาคารแบบดั้งเดิมได้อีกด้วย
คำถามสำคัญ
อนาคตของสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร
ผู้เชี่ยวชาญมักพูดถึงวิธีการที่เงินดิจิทัลเป็นทางออกสำหรับการแก้ไขข้อบกพร่องในระบบการเงินปัจจุบันของเรา ค่าธรรมเนียมที่สูง การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล และความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจัดเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินปัจจุบันของเรา และยังเป็นสิ่งต่างๆ ที่สกุลเงินดิจิทัลมีศักยภาพในการแก้ไขอีกด้วย เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนสกุลเงินดิจิ ทัลยังมีศักยภาพอีกมากมายนอกเหนือจากอุตสาหกรรมทางการเงิน ตั้งแต่การปฏิวัติห่วงโซ่อุปสงค์ไปจนถึงการสร้างอินเตอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจ
สกุลเงินดิจิทัลมีวิธีการทำงานอย่างไร
บิตคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลรายแรกซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังมีสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อีกมากมายหลายพันประเภท ซึ่งสกุลเงินดิจิทัลหลายๆ ประเภท เช่น Litecoin และ Bitcoin Cash มีคุณลักษณะหลักคล้ายกันกับบิตคอยน์แต่ใช้วิธีใหม่ๆ ในการประมวลผลธุรกรรม ส่วนสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ นั้นก็มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น อีเธอร์เรียม ที่ใช้เพื่อเรียกใช้แอปพลิเคชันและสร้างสัญญาได้ อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิทัลทั้งสี่นี้สร้างมาจากแนวคิ ดที่เรียกว่า บล็อกเชน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของสกุลเงินดิจิทัล
โดยพื้นฐานแล้ว บล็อกเชนเป็นรายการธุรกรรมที่ทุกคนสามารถตรวจดูพร้อมทั้งทำการยืนยันได้ ตัวอย่างเช่น บล็อกเชนบิตคอยน์คือ บันทึกที่แสดงทุกรายการเมื่อมีคนส่งหรือรับบิตคอยน์ รายการธุรกรรมนี้เป็นพื้นฐานของสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ เนื่องจากช่วยให้บุคคลที่ไม่รู้จักกันสามารถชำระเงินให้แก่กันได้อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องมีบุคคลที่สามเช่นธนาคารมาเป็นผู้ตรวจสอบ
นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังน่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากมีการนำตัวเทคโนโลยีนี้ไปใช้งานด้านอื่นๆ อีกมากมาย นอกเหนือจากการใช้ในด้านท ี่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล มีการนำบล็อกเชนไปใช้เพื่อการวิจัยทางการแพทย์ ปรับปรุงการแบ่งปันบันทึกด้านสาธารณสุข ปรับปรุงซัพพลายเชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวบนอินเตอร์เน็ต และอื่นๆ อีกมากมาย
หลักการเกี่ยวกับบิตคอยน์และบล็อกเชนบิตคอยน์ปรากฏครั้งแรกในโลกออนไลน์ผ่านสมุดปกขาวที่เผยแพร่เมื่อปลายปี 2007 โดยบุคคลหรือกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto
บัญชีแยกประเภทบล็อกเชนจะมีการแยกออกจากกันในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเครือข่าย โดยจะมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าบล็อกเชนนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งหมายความว่า จะไม่สามารถโจมตี โจรกรรม หรือทำให้ตู้นิรภัยกลาง นิติบุคคล หรือฐานข้อมูลบิดเบือนได้
แนวคิดหลัก
สกุลเงินดิจิทัลจะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า การเข้ารหัสคีย์สาธารณะและส่วนตัว เพื่อโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของเหรียญในบัญชีแยกประเภทที่ปลอดภัยและเป็นแบบกระจาย โดยคีย์ส่วนตัวคือรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นพิเศษซึ่งไม่จำเป็นต้องบอกให้ใครทราบ ทำให้คุณสามารถส่งมูลค่าบนเครือข่ายได้ ส่วนคีย์สาธารณะที่เชื่อมโยงกันนั้นคุณสามารถใช้ร่วมกับคนอื่นๆ เพื่อรับมูลค่าบนเครือข่ายได้อย่างอิสระและปลอดภัย ทั้งนี้ จะไม่มีใครคาดเดาคีย์ส่วนตัวของคุณได้แม้ว่าจะรู้คีย์สาธารณะก็ตาม
การขุดสกุลเงินดิจิทัลคืออะไร
สกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่จะถูก "ขุด" ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่กระจายอำนาจ (รู้จักกันในชื่อเพียร์ทูเพียร์) การขุดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มจำนวนบิตคอยน์หรืออีเธอร์เรียมให้เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกที่ทำให้เครือข่ายมีความทันสมัยและปลอดภัย อันเนื่องมาจากการยืนยันบัญชีแยกประเภทของบล็อกเชนสาธารณะและเพิ่มธุรกรรมรายการใหม่อย่างสม่ำเสมอ
ในทางเทคนิคแล้ว ใครก็ตามที่มีคอมพิวเตอร์และสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ก็สามารถขุดเหรียญดิจิทัลได้ แต่อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป เป็นเรื่องสำคัญที่ควรรู้ว่าการขุดไม่ได้สร้างผลกำไรเสมอไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคุณขุดสกุลเงินดิจิทัลใด คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานเร็วไหม และค่าไฟในพื้นที่ของคุณแพงหรือไม่ คุณอาจลงเอยด้วยการใช้จ่ายเงินไปกับการขุดมากกว่าที่คุณจะได้รับสกุลเงินดิจิทัลก็เป็นได้
ดังนั้น การขุดสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้จึงดำเนินการโดยบริษัทต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านดังกล่าว หรือดำเนินการโดยกลุ่มบุคคลขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งหมดต่างช่วยสนับสนุนพลังในการคำนวณ
เครือข่ายนั้นสร้างแรงจูงใจให้นักขุดเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลบล็อกเชนได้อย่างไร เช่นเคย ยกตัวอย่างเช่นบิตคอยน์ ทางเครือข่ายมีลอตเตอรีอยู่หนึ่งรายการซึ่งเครื่องมือในการขุดเหมืองทั่วโลกจะแข่งขันกันเพื่อให้เป็นบุคคลแรกที่แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้ ซึ่งจะเป็นการยืนยันและอัปเดตบล็อกเชนดังกล่าวด้วยธุรกรรมรายการใหม่ด้วย ผู้ชนะแต่ละรายจะได้รับรางวัลเป็นบิตคอยน์เหรียญใหม่ ซึ่งทำให้สามารถเข้าสู่ตลาดที่กว้างขึ้นได้
คำถามสำคัญ
มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมาจากไหน
เช่นเดียวกับสินค้าและบริการต่างๆ มูลค่าทางเศรษฐกิจของสกุลเงินดิจิทัลมาจากอุปสงค์และอุปทาน
อุปสงค์หมายถึงจำนวนที่มีอยู่ เช่น มีบิตคอยน์ที่ซื้อได้อยู่จำนวนเท่าใดในช่วงเวลานั้น อุปทานหมายถึงความต้องการเป็นเจ้าของ เช่น มีบุคคลที่ต้องการซื้อบิตคอยน์กี่คนและบุคคลเหล่านั้นต้องการมากเพียงใด มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลจะขึ้นอยู่กับความสมดุลของทั้งสองปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นเสมอ
นอกจากนี้ยังมีมูลค่าประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น มูลค่าที่คุณได้รับจากการใช้สกุลเงินดิจิทัล หลายๆ คนเพลิดเพลินกับการใช้จ่ายหรือให้ของขวัญในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล กล่าวคือพวกเขารู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยสนับสนุนระบบทางการเงินใหม่ที่น่าตื่นเต้น ในทำนองเดียวกัน บางคนชอบซื้อสินค้าด้วยบิตคอยน์เพราะมีค่าธรรมเนียมต่ำ และต้องการกระตุ้นให้ธุรกิจต่างๆ ยอมรับสกุลเงินดังกล่าว
วิธีซื้อบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการให้ได้มาซึ่งบิตคอยน์คือการซื้อผ่านตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์เช่น Coinbase
Coinbase ช่วยให้คุณซื้อเงินดิจิทัลในสกุลเงินหลักๆ อย่าง
บิตคอยน์ (BTC), Litecoin (LTC), อีเธอร์เรียม (ETH), Bitcoin Cash (BCH), Ethereum Classic (ETC) หรือสำรวจเหรียญที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น Stellar Lumen หรือ EOS ได้ สำหรับเงินดิจิทัลบางรายการ Coinbase มอบโอกาสให้คุณได้รับแบบฟรีๆ
วิธีที่ดีวิธีหนึ่งคือถามตัวคุณเองก่อนว่า ต้องการใช้เงินดิจิทัลไปทำอะไร แล้วเลือกเงินดิจิทั ลที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายนั้น ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อแล็ปท็อปโดยใช้เงินดิจิทัล บิตคอยน์อาจเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุด แต่ในทางตรงกันข้าม หากคุณต้องการเล่นเกมการ์ดดิจิทัล ตัวเลือกยอดนิยมคืออีเธอร์เรียม
โปรดระลึกไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้อบิตคอยน์ทั้งเหรียญ บน Coinbase คุณซื้อเหรียญบางส่วนได้ในจำนวนที่ต่ำสุดคือ ครั้งละ 2 ดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ หรือสกุลเงินท้องถิ่นของคุณ
คุณจัดเก็บสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร
การจัดเก็บเงินดิจิทัลคล้ายกับการเก็บเงินสด ซึ่งหมายความว่าคุณต้องปกป้องเงินจากการโจรกรรมและการสูญหาย มีวิธีในการจัดเก็บเงินดิจิทัลมากมายทั้งทางออนไลน ์และออฟไลน์ แต่ทางออกที่ง่ายที่สุดคือการจัดเก็บผ่านตลาดแลกเปลี่ยนที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยเช่น Coinbase
ลูกค้าของ Coinbase สามารถจัดเก็บ ส่ง รับ และแปลงสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย โดยการลงชื่อเข้าสู่ระบบบัญชีของตนเองผ่านทางคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์
ต้องการโอนเงินจากกระเป๋าเงินของคุณไปยังบัญชีธนาคารใช่หรือไม่ แอป Coinbase ทำให้ขั้นตอนดังกล่าวง่ายพอๆ กับการโอนเงินจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่ง คล้ายๆ กันกับการโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิมหรือการถอนเงินผ่านตู้ ATM ตลาดแลกเปลี่ยนต่างๆ เช่น Coinbase จะกำหนดวงเงินรายวัน และอาจใช้เวลาประมาณสองสามวันถึงหนึ่งสัปดา ห์เพื่อให้ธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์
คุณใช้สกุลเงินดิจิทัลทำอะไรได้บ้าง
มีหลายสิ่งที่คุณทำได้ด้วยสกุลเงินดิจิทัล และรายการของสิ่งที่ทำได้นี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของการเริ่มต้นใช้งาน ตั้งแต่การเข้าร่วมกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการสำรวจขอบเขตของเทคโนโลยีใหม่ๆ
ซื้อสินค้า: ผู้ค้าทั่วโลกกว่า 8,000 รายต่างยอมรับเงินดิจิทัลผ่าน Coinbase Commerce
บริจาคเพื่อการกุศล: มีข้อดีมากมายในการบริจาคด้วยเงินดิจิทัลและรับเงินดิจิทัล สำหรับการบริจาคนั้น ซึ่งองค์กรไม่แสวงกำไรหลายๆ แห่งก็รับการบริจาคในรูปของบิตคอยน์
ให้เป็นของขวัญ: สกุลเงินดิจิทัลเป็นของขวัญที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
ให้เป็นทิป: นักเขียน นักดนตรี และผู้สร้างสรรค์เนื้อหาออนไลน์อื่นๆ บางครั้งจะระบุที่อยู่บิตคอยน์หรือรหัส QR ไว้ในตอนท้ายบทความของตน หากคุณชื่นชอบผลงานของพวกเขา คุณมอบเงินดิจิทัลเล็กน้อยเพื่อนแทนคำขอบคุณได้
สำรวจการผสมผสานในรูปแบบใหม่ๆ ของเงินและเทคโนโลยี: Orchid เป็น VPN ซึ่งช่วยปกป้องคุณเมื่อคุณออนไลน์ และปกป้องสกุลเงินดิจิทัลในเวลาเดียวกัน โดยพื้นฐานแล้วจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ แอป Orchid VPN และสกุลเงินดิจิทัล OXT ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานอ ยู่บนเครือข่ายอีเธอร์เรียม น่าทึ่งใช่ไหม อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ท่องเที่ยวทั่วโลก: เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ผูกอยู่กับประเทศใดประเทศหนึ่ง การท่องเที่ยวโดยใช้เงินดิจิทัลจึงช่วยลดค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเงินตราได้ มีชุมชนเล็กๆ ที่มีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เรียกตนเองว่า “Crypto Nomad” ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่โดยส่วนใหญ่แล้ว หรือในบางครั้งจะใช้แต่เงินดิจิทัลเท่านั้นเมื่อยามเดินทางท่องเที่ยว
ซื้ออสังหาฯ ในโลกเกมเสมือนจริง: Decentraland ซึ่งทำงานบนบล็อกเชนอีเธอร์เรียมเช่นกัน เป็นโลกเสมือนจริงแห่งแรกที่มีผู้ใช้เป็นเจ้าของ ผู้ใช้ซื้อและขายที่ดิน เสื้อผ้าจำลอง และสิ่งอื่นๆ ได้มากมายขณะร่วมงานปาร์ตี้ในไนท์คลับเสมือนจริง หรือเดินเล่นชมงานศิลปะในแกลเลอรีเสมือนจริง
สำรวจการเงินแบบกระจายอำนาจ หรือ DeFi: ผู้เล่นใหม่ที่หลากหลายกำลังมุ่งเป้าที่จะสร้างระบบการเงินทั่วโลกใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การลงทุนแบบกองทุนรวม ไปจนถึงกลไกการให้ยืมเงิน และอื่นๆ อีกมากมายโดยไม่ต้องมีหน่วยงานส่วนกลาง