โลโก้ของ Coinbase

บิตคอยน์คืออะไร

โลโก้บิตคอยน์ที่มีมือข้างหนึ่งประคองไว้ให้ลอยขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์ที่ปลอดภัย

สกุลเงินดิจิทัลที่นำมาใช้อย่างกว้างขวางเป็นรายแรกของโลก ด้วยบิตคอยน์ ทุกคนสามารถส่งเงินดิจิทัลให้แก่กันได้โดยตรงด้วยความปลอดภัยผ่านทางอินเตอร์เน็ต

บิตคอยน์สร้างขึ้นโดย Satoshi Nakamoto ซึ่งเป็นบุคคลหรือทีมที่ใช้นามแฝงที่ร่างเทคโนโลยีนี้ไว้ในสมุดปกขาวปี 2008 แนวคิดเรื่องบิตคอยน์นั้นเรียบง่ายและแฝงไปด้วยความน่าสนใจตรงที่ว่า บิตคอยน์คือเงินดิจิทัลที่ช่วยให้การทำธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์บนอินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัย

  • บิตคอยน์มีการกระจายอำนาจ กล่าวคือ คนสองคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก สามารถส่งบิตคอยน์ให้แก่กันได้โดยที่ธนาคาร รัฐบาล หรือสถาบันอื่นๆ ไม่ต้องเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งแตกต่างจากบริการอื่นๆ เช่น Venmo และ Paypal ที่ต้องพึ่งพาระบบการเงินแบบดั้งเดิมเพื่อขออนุญาตโอนเงิน และต้องพึ่งพาบัญชีเครดิต/เดบิตที่มีอยู่

  • ทุกรายการธุรกรรมที่เกี่ยวกับบิตคอยน์จะได้รับการติดตามบนบล็อกเชน ซึ่งคล้ายกันกับบัญชีแยกประเภทของธนาคาร หรือบันทึกแสดงเงินเข้าและออกจากธนาคารของลูกค้า กล่าวง่ายๆ คือ เป็นบันทึกที่แสดงธุรกรรมทุกรายการที่ใช้บิตคอยน์

  • บล็อกเชนของบิตคอยน์แตกต่างจากบัญชีแยกประเภทของธนาคาร โดยจะกระจายไปทั่วเครือข่าย ไม่มีบริษัท ประเทศ หรือบุคคลที่สามใดสามารถควบคุมบล็อกเชนของบิตคอยน์ได้ และทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายนั้นได้

  • จะมีบิตคอยน์อยู่เพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น นี่จึงเป็นเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถทำให้เฟ้อหรือปั่นมูลค่าได้แต่อย่างใด

  • คุณสามารถซื้อเพียงเศษเสี้ยวของบิตคอยน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งเหรียญ ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการหรือจำเป็นต้องทำ

คำถามสำคัญ

BTC คืออะไร

BTC คือชื่อย่อของบิตคอยน์

บิตคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลใช่ไหม

ใช่ บิตคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นรายแรก ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งในการเรียกเงินดิจิทัล

มีคำจำกัดความง่ายๆ สำหรับบิตคอยน์ไหม

Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์ที่เข้ารหัสโดยไม่จำเป็นต้องมีธนาคารกลาง

บิตคอยน์ราคาเท่าไหร่

ราคาของบิตคอยน์ในปัจจุบันสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของ Coinbase

บิตคอยน์เป็นโอกาสในการลงทุนใช่ไหม

เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ คุณสามารถสร้างรายได้ด้วยการซื้อ BTC ในราคาที่ต่ำและขายในราคาที่สูง หรือสูญเสียเงินในกรณีที่ทำตรงกันข้าม

บิตคอยน์เริ่มต้นที่ราคาเท่าไหร่

ในช่วงต้นปี 2010 ราคาของ BTC หนึ่งเหรียญมีมูลค่าไม่ถึงเพนนี ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2011 มีมูลค่าเกินหนึ่งดอลลาร์ ในช่วงปลายปี 2017 มูลค่าของมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพุ่งไปที่เกือบ 20,000 ดอลลาร์ และบิตคอยน์จบลงด้วยการสูงถึง 64,899 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 คุณสามารถติดตามราคาบิตคอยน์ได้ ที่นี่

Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมแบบเพียร์ทูเพียร์ที่เข้ารหัสโดยไม่จำเป็นต้องมีธนาคารกลาง

บิตคอยน์คืออะไร โดย Brian Armstrong ตำแหน่ง CEO ของ Coinbase ซื้อบิตคอยน์ครั้งแรกของคุณ เริ่มต้นเพียง 25 ดอลลาร์ เริ่มต้นใช้งาน

ข้อมูลพื้นฐานของบิตคอยน์

นับตั้งแต่การสร้างของบิตคอยน์ มีสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆ เกิดขึ้นนับพัน แต่บิตคอยน์ (ชื่อย่อคือ BTC) ยังคงเป็นสกุลเงินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อวัดด้วยมูลค่าตามราคาตลาดและปริมาณการซื้อขาย

  • บิตคอยน์สามารถทำหน้าที่ได้ดังนี้ โดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ

- เป็นเครื่องมือในการลงทุน

- จัดเก็บมูลค่าได้ คล้ายๆ กับทองคำ

- เป็นวิธีหนึ่งในการโอนมูลค่าไปทั่วโลก

- หรือแม้แต่เป็นวิธีในการสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น

  • บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่มีต้นกำเนิดมาจากอินเตอร์เน็ต แตกต่างจากสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล เช่น ดอลลาร์หรือยูโร บิตคอยน์ช่วยให้การโอนเงินออนไลน์สามารถทำได้โดยไม่ผ่านคนกลาง เช่น ธนาคาร หรือผู้ประมวลผลการชำระเงิน การตัดตัวกลางเหล่านั้นออกไปทำให้เกิดโอกาสความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากมาย รวมถึงโอกาสที่เงินจะหมุนเวียนไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและมีต้นทุนที่ถูกลง ช่วยให้บุคคลต่างๆ สามารถควบคุมสินทรัพย์ของตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • บิตคอยน์สามารถใช้จ่าย ถือครอง และซื้อขายได้ตามกฎหมาย และสามารถใช้จ่ายได้สำหรับทุกสิ่ง ตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงการบริจาคเพื่อการกุศล ได้รับการยอมรับเป็นการชำระเงินจากธุรกิจต่างๆ รวมถึง Microsoft และ Expedia

  • บิตคอยน์คือเงินใช่ไหม มีการใช้บิตคอยน์เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน การจัดเก็บมูลค่า และหน่วยวัดมูลค่า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติของเงิน ขณะเดียวกัน บิตคอยน์ปรากฏในรูปแบบดิจิทัลเท่านั้น และไม่มีในรูปแบบที่จับต้องได้

ใครเป็นผู้สร้างบิตคอยน์

เพื่อให้เข้าใจจริงๆ ว่าบิตคอยน์ทำงานอย่างไร เริ่มอ่านตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยได้ คำถามที่ว่าใครเป็นผู้สร้างบิตคอยน์นั้นน่าสนใจมาก เพราะหนึ่งทศวรรษหลังจากคิดค้นเทคโนโลยีนี้ และแม้ว่าจะมีการขุดขุ้ยโดยนักข่าวและสมาชิกของชุมชนสกุลเงินดิจิทัล ผู้สร้างบิตคอยน์ยังคงไม่เปิดเผยตัวตน

  • หลักการเบื้องหลังบิตคอยน์ ปรากฎครั้งแรกในสมุดปกขาวที่เผยแพร่ออนไลน์ในปลายปี 2008 โดยบุคคลหรือกลุ่มหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto

  • สมุดปกขาวนี้ไม่ใช่แนวคิดแรกสำหรับเรื่องเงินดิจิทัลในสาขาการเข้ารหัสและวิทยาการคอมพิวเตอร์ หากแต่จริงๆ แล้ว สมุดปกขาวนี้อ้างถึงแนวคิดต่างๆ ก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้เป็นทางออกที่สวยงามและไม่เหมือนใครในการแก้ปัญหาการสร้างความเชื่อถือระหว่างบุคคลหรือกลุ่มออนไลน์ ที่ซึ่งผู้คนอาจซ่อนตัวอยู่ (เช่น ผู้สร้างบิตคอยน์เอง) โดยใช้นามแฝง หรือมีที่อยู่จริงๆ ในอีกซีกโลกหนึ่ง

  • Nakamoto คิดค้นแนวคิดรวบยอดสองแนวคิด คือ คีย์ส่วนตัวของบิตคอยน์ และบัญชีแยกประเภทบล็อกเชน เมื่อคุณถือครองบิตคอยน์ คุณคือผู้ควบคุมผ่านคีย์ส่วนตัว โดยคีย์ส่วนตัวคือตัวเลขและตัวอักษรแบบสุ่มที่เรียงกันยาวซึ่งมีไว้เพื่อปลดล็อกตู้นิรภัยเสมือนจริงที่มีการซื้อของคุณอยู่ในนั้น โดยคีย์ส่วนตัวแต่ละอันจะถูกติดตามบนบัญชีแยกประเภทเสมือนจริงที่เรียกว่าบล็อกเชน

การปรากฎตัวของบิตคอยน์ขึ้นครั้งแรก นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพราะมันมาช่วยแก้ปัญหาพื้นฐานเรื่องการค้าบนอินเตอร์เน็ตได้ นั่นคือ คุณจะโอนมูลค่าระหว่างสองบุคคลโดยไม่มีคนกลาง (เช่น ธนาคาร) ที่น่าเชื่อถืออยู่ตรงกลางได้อย่างไร ในการแก้ปัญหาดังกล่าว การคิดค้นบิตคอยน์นี้จึงมีกิ่งก้านสาขามากมาย เช่น ในฐานะที่เป็นสกุลเงินที่ออกแบบมาเพื่ออินเตอร์เน็ต จึงช่วยให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้แบบข้ามพรมแดนและทั่วโลกโดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต ผู้ให้กู้ หรือแม้แต่รัฐบาล เมื่อคนสองคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สามารถส่งการชำระเงินให้แก่กันได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนดูแลเหล่านั้น เป็นการสร้างโอกาสสำหรับระบบการเงินแบบเปิดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นอิสระมากขึ้น และทันสมัยมากขึ้น ทั้งหมดที่อธิบายมานี้คือบิตคอยน์โดยสรุป

บิตคอยน์สร้างโอกาสสำหรับระบบการเงินแบบเปิดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นอิสระมากขึ้น และทันสมัยมากขึ้น

บิตคอยน์ทำงานอย่างไร

ไม่เหมือนกับเครือข่ายบัตรเครดิต เช่น วีซ่า และตัวกลางดำเนินการชำระเงินต่างๆ เช่น Paypal เพราะบิตคอยน์ไม่ได้มีใครหรือบริษัทใดเป็นเจ้าของ บิตคอยน์คือเครือข่ายการชำระเงินแบบเปิดโดยสมบูรณ์รายแรกของโลก ซึ่งไม่ว่าใครที่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถเข้าร่วมได้ บิตคอยน์ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานบนอินเตอร์เน็ต โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือบริษัทเอกชนในการดำเนินการทางธุรกรรม

หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญมากที่สุดของบิตคอยน์คือบล็อกเชน ซึ่งจะเป็นตัวติดตามว่าใครครอบครองอะไรบ้าง คล้ายกับวิธีที่ธนาคารติดตามสินทรัพย์ สิ่งที่ทำให้บล็อกเชนบิตคอยน์แตกต่างจากบัญชีแยกประเภทของธนาคารคือ บล็อกเชนบิตคอยน์มีการกระจายอำนาจ ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถดูได้และไม่มีนิติบุคคลใดก็ตามควบคุมบล็อกเชนบิตคอยน์ได้

ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการทำงานทั้งหมด

  • คอมพิวเตอร์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษที่รู้จักกันในชื่อ 'เครื่องมือในการขุดเหมือง' จะดำเนินการสมการตามที่กำหนดไว้เพื่อยืนยันและบันทึกธุรกรรมรายการใหม่ ในช่วงแรกๆ นั้น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปทั่วไปถือว่ามีกำลังเพียงพอในการเข้าร่วมดำเนินการนี้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้แทบจะทุกคนที่มีความอยากรู้อยากเห็นได้ลองเข้ามาขุด ในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการนี้ได้จะต้องมีขนาดใหญ่ มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และบ่อยครั้งมักจะเป็นของธุรกิจต่างๆ หรือของบุคคลจำนวนมากที่รวมทรัพยากรของตนเข้าด้วยกัน (ในเดือนตุลาคม 2019 จะต้องใช้พลังประมวลผลมากกว่าเมื่อตอนที่ Nakamoto ขุดบล็อกแรกในเดือนมกราคม ปี 2019 ถึง 12 ล้านล้านเท่าในการขุดบิตคอยน์หนึ่งเหรียญ)

  • พลังประมวลผลรวมกันของนักขุดจะนำมาใช้เพื่อทำให้มั่นใจถึงความถูกต้องของบัญชีแยกประเภทที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ บิตคอยน์กับบล็อกเชนถูกผูกติดกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ บิตคอยน์ใหม่แต่ละอันจะถูกบันทึกไว้บนบล็อกเชน เช่นเดียวกับธุรกรรมของบิตคอยน์ลำดับถัดไปหลังจากนั้นพร้อมเหรียญที่มีอยู่ทั้งหมด

  • เครือข่ายกระตุ้นให้นักขุดมีส่วนร่วมในงานที่จำเป็นและต่อเนื่องของการบำรุงรักษาบล็อกเชนโดยการตรวจสอบธุรกรรมอย่างไร เครือข่ายบิตคอยน์มีการออกลอตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแท่นขุดเจาะทั่วโลกต่างแข่งขันกันเพื่อที่จะเป็นคนแรกในการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ทุกๆ 10 นาทีหรือราวๆ นั้น จะมีผู้ชนะ และผู้ชนะจะอัปเดตบัญชีแยกประเภทบิตคอยน์ด้วยธุรกรรมที่ถูกต้องรายการใหม่ รางวัลเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป แต่ในเดือนพฤษภาคม 2020 รางวัลสำหรับผู้ชนะแต่ละคนของลอตเตอรีนี้เปลี่ยนจาก 12.5 บิตคอยน์ ต่อบล็อกเป็น 6.25 และจากการ ลดลงครึ่งหนึ่ง นี้ ในปี 2024 รางวัลจึงลดลงอีกจาก 6.25 เป็น 3.125 เป็นกลไกในการเพิ่มการขาดแคลน

  • ในช่วงแรก บิตคอยน์ไม่มีมูลค่า ณ สิ้นปี 2019 ตลาดซื้อขายที่ประมาณ 7,500 ดอลลาร์ และในเดือนพฤศจิกายน 2021 พุ่งขึ้นถึง 64,000 ดอลลาร์ เมื่อมูลค่าของบิตคอยน์เพิ่มขึ้น การแยกตัวได้ง่าย (ความสามารถในการซื้อเศษส่วนเล็กน้อยของหนึ่งบิตคอยน์) ได้กลายเป็นคุณสมบัติหลัก ปัจจุบันนี้ บิตคอยน์หนึ่งเหรียญสามารถแตกออกได้เป็นทศนิยมแปดตำแหน่ง (ที่หนึ่งร้อยล้านของบิตคอยน์หนึ่งเหรียญ) ซึ่งชุมชนบิตคอยน์เรียกหน่วยที่เล็กที่สุดว่า 'Satoshi'

  • Nakamoto ตั้งค่าเครือข่ายเพื่อไม่ให้จำนวนบิตคอยน์เกิน 21 ล้าน มั่นใจได้ว่าจะขาดแคลน ณ เดือนธันวาคม 2023 ยังมีบิตคอยน์ประมาณ 1,4 ล้านบิตคอยน์ที่สามารถขุดได้ ตามทฤษฎีแล้ว บล็อกสุดท้ายจะถูกขุดในปี 2140

สกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินแบบดั้งเดิมมีลักษณะบางอย่างที่เหมือนกัน เช่น วิธีที่คุณใช้ในการซื้อสิ่งของหรือโอนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่เงินทั้งสองประเภทก็มีความแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ ต่อไปนี้คือสิ่งที่น่าสนใจบางประการ

บิตคอยน์คือเครือข่ายการชำระเงินแบบเปิดโดยสมบูรณ์รายแรกของโลก ซึ่งไม่ว่าใครที่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถเข้าร่วมได้

คำถามสำคัญ

บิตคอยน์มีมูลค่าได้อย่างไร

โดยพื้นฐานแล้ว ใช้วิธีเดียวกับสกุลเงินแบบดั้งเดิม เพราะเงินดิจิทัลได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นวิธีที่สะดวกและใช้การได้ดีในการจัดเก็บมูลค่า ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้เงินดิจิทัลเพื่อแลกเลี่ยนเป็นสินค้า บริการ หรือสินทรัพย์อื่นๆ ได้ โดยเงินดิจิทัลนี้หายาก ปลอดภัย พกพาได้ (เช่น เมื่อเทียบกับทอง) และสามารถแตกเป็นเศษย่อยๆ ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้สามารถทำธุรกรรมได้ทุกขนาด

จะได้บิตคอยน์มาได้อย่างไร

วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้อบิตคอยน์คือการซื้อผ่านตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์ เช่น Coinbase Coinbase ทำให้การซื้อ ขาย ส่ง รับ และจัดเก็บบิตคอยน์เป็นเรื่องง่ายโดยไม่จำเป็นต้องถือไว้ด้วยตนเอง แต่ใช้บางสิ่งที่เรียกว่าคีย์สาธารณะและคีย์ส่วนตัว

วิธีการซื้อบิตคอยน์ ด้วย Coinbase จาก Brian Armstrong ซีอีโอ

อย่างไรก็ตาม หากคุณเลือกซื้อและจัดเก็บบิตคอยน์ภายนอกตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์ วิธีการทำงานมีดังต่อไปนี้

  1. แต่ละบุคคลที่เข้าร่วมเครือข่ายบิตคอยน์จะได้รับคีย์สาธารณะ ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวอักษรและตัวเลขที่เรียงกันยาวคล้ายที่อยู่อีเมล พร้อมด้วยคีย์ส่วนตัวซึ่งเทียบเท่ากับรหัสผ่าน

  2. เมื่อคุณซื้อบิตคอยน์ หรือส่ง/รับบิตคอยน์ คุณจะได้รับคีย์สาธารณะที่จะทำหน้าที่เสมือนกุญแจสำหรับปลดล็อกตู้นิรภัยเสมือนจริงทำให้คุณสามารถเข้าถึงเงินของคุณได้

  3. ใครก็สามารถส่งบิตคอยน์ให้คุณได้ผ่านคีย์สาธารณะของคุณ แต่เฉพาะผู้ถือครองคีย์ส่วนตัวเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงบิตคอยน์ที่ถูกส่งมาไว้ใน "ตู้นิรภัยเสมือนจริง" ดังกล่าวได้

  4. มีวิธีในการจัดเก็บบิตคอยน์แบบออนไลน์และออฟไลน์หลายวิธี ทางออกที่ง่ายที่สุดคือกระเป๋าเงินเสมือนจริง

  5. หากคุณต้องการโอนเงินจากกระเป๋าเงินของคุณไปยังบัญชีธนาคารหลังจากได้ขายบิตคอยน์ของคุณแล้ว แอป Coinbase ทำให้ขั้นตอนดังกล่าวง่ายพอๆ กับการโอนเงินทุนจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่ง คล้ายๆ กันกับการโอนเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิมหรือการถอนเงินผ่านตู้ ATM ตลาดแลกเปลี่ยนต่างๆ เช่น Coinbase ได้กำหนดวงเงินรายวัน และอาจใช้เวลาประมาณสองสามวันถึงหนึ่งสัปดาห์เพื่อให้ธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์

วิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้อบิตคอยน์คือการซื้อผ่านตลาดแลกเปลี่ยนออนไลน์ เช่น Coinbase

คำถามสำคัญ

บิตคอยน์และบล็อกเชนแตกต่างกันอย่างไร

ทุกธุรกรรมของบิตคอยน์และคีย์สาธารณะจะถูกบันทึกไว้บนบัญชีแยกประเภทเสมือนจริงที่เรียกว่าบล็อกเชน ซึ่งบัญชีแยกประเภทดังกล่าวเป็นการบันทึกรายการธุรกรรมตามลำดับเวลาที่มีประสิทธิภาพ บัญชีแยกประเภทนี้จะถูกคัดลอกไปยังคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายบิตคอยน์ และจะได้รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอโดยใช้พลังการประมวลผลจำนวนมากทั่วโลก แนวคิดของบล็อกเชนได้กลายมาเป็นแนวคิดที่ทรงพลังและสามารถนำไปปรับใช้กับสิ่งอื่นได้ โดยปัจจุบันนี้มีบล็อกเชนที่ไม่เกี่ยวข้องสกุลเงินดิจิทัลอย่างมากมาย ซึ่งถูกใช้สำหรับสิ่งต่างๆ เช่น การจัดการห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น 'บล็อกเชนบิตคอยน์' หมายถึงบัญชีแยกประเภทเสมือนจริงที่บันทึกธุรกรรมบิตคอยน์และคีย์ส่วนตัว

ใช้บิตคอยน์อย่างไร

ย้อนกลับไปในปี 2013 ผู้หลงใหลบิตคอยน์นาม Laszlo Hanyecz ได้สร้างโพสต์บอร์ดข้อความ เสนอบิตคอย์จำนวน 10,000 เหรียญ ซึ่งตอนนั้นมีมูลค่าประมาณ $25 ให้แก่ใครก็ตามที่ส่งพิซซ่าสองถาดไปให้เขาที่บ้านที่เมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ตามที่เล่าต่อกันมา พิซซ่าสองถาดนั้นที่ซื้อโดยผู้ใช้บิตคอยน์ในยุคแรกๆ จากร้าน Papa John's ในละแวกดังกล่าว ถือเป็นการซื้อสินค้าจริงครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จโดยใช้บิตคอยน์ โชคดีที่วันนี้บิตคอยน์ใช้ง่ายยิ่งกว่าเดิม

  • ง่ายมาก: การทำธุรกรรมโดยใช้ BTC ไม่ได้แตกต่างจากการใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตสักเท่าไร แต่แทนที่คุณจะต้องป้อนข้อมูลบัตร คุณจะต้องป้อนจำนวนการชำระเงินและคีย์สาธารณะของผู้ขายแทน (คล้ายๆ กับที่อยู่อีเมล) ผ่านแอปกระเป๋าเงิน (เมื่อทำธุรกรรมด้วยตนเองโดยใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต บ่อยครั้งรหัส QR จะปรากฎเพื่อทำให้ขั้นตอนนั้นง่ายขึ้น เมื่อคุณแสกนรหัสดังกล่าว แอปกระเป๋าเงินของคุณจะป้อนข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ)

  • มีความเป็นส่วนตัว: หนึ่งในประโยชน์ของการจ่ายเงินด้วยบิตคอยน์คือช่วยลดปริมาณข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณต้องระบุ มีเพียงเวลาเดียวที่คุณต้องเปิดเผยชื่อและที่อยู่ของคุณคือ เมื่อคุณซื้อสินค้าจริงที่ต้องมีการจัดส่ง

  • มีความยืดหยุ่น: สำหรับคำถามที่ว่าคุณนำบิตคอยน์ไปใช้ทำอะไรได้บ้างนั้น คำตอบขึ้นอยู่กับความสนใจส่วนตัวของคุณ นี่คือไอเดียบางส่วน

    • คุณสามารถขายบิตคอยน์เพื่อรับเป็นเงินสดกลับมาได้โดยใช้การแลกเปลี่ยนหรือ Bitcoin ATM

    • คุณสามารถใช้จ่ายทางออนไลน์หรือในร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมได้เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ โดยใช้บัตรเดบิตบิตคอยน์

    • คุณสามารถถือครองบิตคอยน์เพียงบางส่วนหรือทั้งหมด ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนและการออมของคุณก็ได้

    • คุณอาจเลือกที่ใกล้เคียงกับที่คุณชอบ (ลองดู)

    • และหากคุณมีงบจำนวนมหาศาลพร้อมกับความฝันที่จะเป็นนักบินซึ่งยังไม่เคยสมหวังซักทีล่ะ Richard Branson แห่ง Virgin Galactic ยินดียอมรับ BTC เป็นค่าแลกเปลี่ยนสำหรับโอกาสในการตะลุยภารกิจท่องเที่ยวอวกาศที่กำลังจะมาถึง

เนื่องด้วยลักษณะในการเข้ารหัสของเครือข่ายบิตคอยน์ ทำให้การชำระเงินด้วยบิตคอยน์โดยพื้นฐานแล้วมีความปลอดภัยมากกว่าธุรกรรมบัตรเครดิต/เดบิตทั่วไป

อะไรที่ทำให้บิตคอยน์เป็นเงินชนิดใหม่

บิตคอยน์ใช้ได้ทั่วโลก คุณสามารถส่งบิตคอยน์ไปได้ทั่วโลกอย่างง่ายดายเฉกเช่นเดียวกับการที่คุณจ่ายด้วยเงินสดในโลกจริง ไม่ปิดทำการในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงเงินของคุณ และไม่กำหนดข้อจำกัดใดๆ โดยพลการ

ไม่สามารถยกเลิกธุรกรรมที่ทำด้วยบิตคอยน์ได้ บิตคอยน์ก็เหมือนกับเงินสด ในแง่ที่ผู้ส่งไม่สามารถยกเลิกธุรกรรมต่างๆ ได้ ในเชิงเปรียบเทียบ บัตรเครดิต ระบบการชำระเงินออนไลน์แบบเดิม และการทำธุรกรรมผ่านทางธนาคาร สามารถถูกยกเลิกได้หลังจากที่การชำระเงินเสร็จสิ้นแล้ว บางครั้งหลายเดือนหลังจากธุรกรรมนั้นเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้เนื่องมาจากตัวกลางกระจายอำนาจที่เป็นผู้ทำธุรกรรมดังกล่าว ซึ่งนี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ค้ามีโอกาสถูกฉ้อโกงมากขึ้น จนอาจนำไปสู่การขึ้นค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้บัตรเครดิต

บิตคอยน์มีความเป็นส่วนตัว ในการชำระเงินด้วยบิตคอยน์ จะไม่มีใบแจ้งยอดธนาคาร หรือความจำเป็นใดๆ ในการแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้ค้าทราบ ธุรกรรมบิตคอยน์จะไม่มีการระบุข้อมูลยืนยันตัวตนใดๆ นอกเหนือไปจากที่อยู่บิตคอยน์และจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง

บิตคอยน์มีความปลอดภัย เนื่องด้วยลักษณะในการเข้ารหัสของเครือข่ายบิตคอยน์ ทำให้โดยพื้นฐานแล้วการชำระเงินด้วยบิตคอยน์มีความปลอดภัยสูงมากกว่าการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต/เดบิตทั่วไป เมื่อชำระเงินด้วยบิตคอยน์ จะไม่มีความจำเป็นในการส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนผ่านทางอินเตอร์เน็ต มีความเสี่ยงต่ำมากที่ข้อมูลทางการเงินของคุณจะถูกบุกรุก หรือถูกขโมยข้อมูลประจำตัว

บิตคอยน์เปิดเป็นสาธารณะ ทุกธุรกรรมบนเครือข่ายบิตคอยน์ได้รับการเผยแพร่เป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีช่องว่างให้เกิดการบิดเบือนข้อมูลที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรม (ไม่รวมถึงกรณีการถูกโจมตีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ 51%) หรือการเปลี่ยนแปลงจำนวนของบิตคอยน์ในตลาด ซอฟต์แวร์ที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบิตคอยน์นั้นฟรีและเป็นแบบโอเพ่นซอร์ส ดังนั้น ไม่ว่าใครก็สามารถตรวจสอบรหัสได้

บิตคอยน์มีความปลอดภัย จากการดำรงอยู่มานานกว่า 10 ปี เครือข่ายบิตคอยน์ไม่เคยถูกแฮ็กสำเร็จเลยสักครั้ง และเนื่องจากระบบเป็นแบบไม่มีการอนุญาตและโอเพ่นซอร์ส นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และนักเข้ารหัสจำนวนมากจึงสามารถตรวจสอบเครือข่ายและความปลอดภัยได้ในทุกๆ ด้าน

บิตคอยน์มาจากไหน

บิตคอยน์ได้รับการ 'ขุด' แบบเสมือนจริงโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีการกระจายอำนาจ (หรือที่เรียกกันว่าเพียร์ทูเพียร์) ซึ่งทำการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยความถูกต้องของบล็อกเชนอย่างสม่ำเสมอ ธุรกรรมบิตคอยน์ทุกรายการจะแสดงบนบัญชีแยกประเภทนั้น พร้อมข้อมูลใหม่ที่รวบรวมเข้าด้วยกันเป็นระยะๆ ใน "บล็อก" ซึ่งจะเพิ่มเข้าไปในบล็อกอื่นๆ ทั้งหมดที่มาก่อนหน้านี้

ซื้อบิตคอยน์ภายในไม่กี่นาที

เราเป็นผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับลูกค้ารายย่อยและบริษัทต่างๆ ในการซื้อ ขาย และจัดการเงินดิจิทัล

ดาวน์โหลดแอป