โลโก้ของ Coinbase

เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ: อดีตผู้จัดการกองทุนธุรกิจร่วมทุนที่หันมาลงทุนกับเทคโนโลยี DeFi

 เ�คล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ: อดีตผู้จัดการกองทุนธุรกิจร่วมทุนที่หันมาลงทุนกับเทคโนโลยี DeFi

เราได้ขอให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้านเงินดิจิทัล เทรดเดอร์ที่มากประสบการณ์ และเหล่าผู้ก่อตั้งกองทุนธุรกิจเงินร่วมลงทุนมาช่วยกันแบ่งปันสุดยอดเคล็ดลับ รวมถึงกลยุทธ์การศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่สำคัญ และอื่นๆ อีกมากมาย ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยกับ Ben Forman หุ้นส่วนผู้จัดการของ ParaFi Capital กัน


Ben Forman ดำรงตำแหน่งหุ้นส่วนผู้จัดการของ ParaFi Capital บริษัทจัดการลงทุนที่มีสำนักงานอยู่ในซานฟรานซิสโก ซึ่งลงทุนในตลาดของเทคโนโลยีบล็อกเชนและการเงินแบบกระจายอำนาจ (หรือ DeFi) เขาก่อตั้ง ParaFi ขึ้นมาในปี 2018 หลังจากที่ทำงานด้านการเงินแบบดั้งเดิมให้กับบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง KKR และ TPG มากว่าสิบปี ซึ่งงานของเขาในอดีตจะเน้นที่ตลาดการลงทุนในธุรกิจร่วมทุนและตลาดการกู้ยืม “นอกเหนือจากบิตคอยน์ที่เป็นการจัดเก็บมูลค่าที่ไม่มีการควบคุมแบบเบ็ดเสร็จแล้ว DeFi ก็ยังเป็นส่วนหลักๆ ของบล็อกเชนที่เป็นนวัตกรรมซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง มีผู้ใช้งานจริง และมีแรงดึงดูดให้ผู้คนเลือกที่จะเข้ามาลงทุนได้จริง” เขากล่าว “ซึ่งบริการทางการเงินที่ไม่มีการควบคุมแบบเบ็ดเสร็จและไม่มีการเซ็นเซอร์คือสิ่งที่เราต้องการ”

มองในระยะยาว

โดยเฉพาะกับบิตคอยน์ Ben ได้แนะนำนำไว้ว่าจะต้องลงทุนในจำนวนที่พร้อมจ่ายได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน “จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมคิดว่าการคาดเดาว่าราคาจะไปแตะอยู่ที่ระดับไหนในช่วงสัปดาห์หนึ่งหรือเดือนหนึ่งนั้น ไม่ค่อยคุ้มกับแรงและเวลาที่เสียไปสักเท่าไหร่” เขากล่าว “ผมลงทุนในเงินดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2013 ผ่านมาแล้วทั้งช่วงตลาดกระทิงและตลาดหมี และผมคิดว่า สินทรัพย์เสมือนจริงเหล่านี้จะกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ใครๆ ก็ต้องมีติดพอร์ตเอาไว้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราอยากจะใช้สินทรัพย์เหล่านั้นในการลงทุนมากน้อยแค่ไหน”

DeFi ทำให้ทุกอย่างง่ายกว่าเดิม

DeFi เป็นตัวเบิกทางให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่อย่างสินเชื่อด่วนพิเศษที่เรียกว่า Flash Loan อีกทั้งยังช่วยให้โอนมูลค่าข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วและราคาถูก Ben เชื่อว่าแนวคิดหลักของ DeFi ซึ่งมุ่งเน้นการเข้าถึงที่รวดเร็วกว่า ประหยัดกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่านั้นจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ DeFi พลิกโฉมธุรกิจด้านการเงินได้  “ทุกเรื่องการเงินที่มี 'คำกริยา’ มาเกี่ยวข้อง คือเรื่องที่เรามุ่งเน้นอยู่เสมอครับ” เขากล่าว “ไม่ว่าจะเป็นการให้กู้ยืม การปล่อยกู้ การประกันความเสี่ยง การแลกเปลี่ยน การประเมินโดยใช้ดัชนีชี้วัด หรือแม้แต่การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้วยระบบอัตโนมัติก็ตาม ซึ่งในตลาดทุนโดยปกติทั่วไป แต่ละอย่างที่กล่าวไปนั้นมีข้อจำกัดและมีตัวกลางดำเนินการให้ โดยหักค่าธรรมเนียมจากเราไป”

ประสบการณ์จะสอนเราได้เป็นอย่างดี

แนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับเงินดิจิทัลนั้นก็เป็นเรื่องนามธรรมที่ดูจะเข้าใจยากไปบ้าง Ben จึงแนะนำว่าให้ลองลงทุนในจำนวนน้อยๆ และลองใช้แอป DeFi สักสองสามแอปด้วยตัวเองดู “ขั้นตอนที่เราสามารถทำได้ง่ายๆ เลยก็คือ ดาวน์โหลด MetaMask [แอปกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ใช้งานผ่านเบราว์เซอร์] แล้วส่งเงินจำนวนหนึ่งจากบัญชี Coinbase ของคุณไปยังกระเป๋าเงิน MetaMask” เขากล่าว “จากนั้นก็ลองใช้แอปพลิเคชันเหล่านั้นดู เมื่อคุณลองแลกเปลี่ยนโทเค็นเป็นอีกสกุลเงินหนึ่งใน Uniswap [แอปให้บริการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ] คุณก็จะพอเข้าใจแล้วว่ามันทำงานอย่างไร หรือพอคุณฝากเหรียญที่มีราคาคงที่เข้าไปใน Compound [โปรโตคอลการปล่อยกู้] แล้วเริ่มได้รับผลตอบแทนเป็นเงินดอลลาร์ โดยที่ไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงโดยตรงจากการที่ฝ่ายคู่สัญญาผิดนัดชำระ ผมว่าวิธีแบบนี้น่าสนใจมาก พอได้ลองทำทั้งหมดแล้ว คุณก็จะร้องอ๋อเลย”

ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจและค้นหาคำตอบ

มีข้อมูลมากมายมหาศาลที่พร้อมให้นักลงทุนเงินดิจิทัลทุกคนได้ศึกษาและเรียนรู้ได้ Ben แนะนำให้ลองเข้าเว็บไซต์ DeFi Pulse ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับโปรโตคอลตามจำนวนของมูลค่าที่ “ล็อก” ไว้ ณ ช่วงเวลาหนึ่งของแต่ละโปรโตคอล  จากนั้นลองคลิกดูแนวโน้มที่น่าสนใจเพื่อดูว่าแนวโน้มนั้นบอกอะไรกับเราบ้าง “แต่ละครั้งผมก็จะเปิดแท็บของบทความที่จะอ่านในเบราว์เซอร์ไว้ประมาณ 20 แท็บ” เขากล่าว “ซึ่งแต่ละบทความก็จะนำไปสู่อีกบทความหนึ่ง และอีกบทความหนึ่งก็จะนำไปสู่บทความอื่นอีกเรื่อยๆ  ในท้ายที่สุดคุณก็จะเข้าใจในแต่ละอย่างมากขึ้น”

เข้าถึงข้อมูลได้อย่างละเอียด

หนึ่งในข้อดีของ DeFi (ซึ่งอย่างน้อยก็เป็นข้อดีสำหรับนักลงทุนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องเทคโนโลยี) คือ ความโปร่งใสที่เป็นผลมาจากบล็อกเชน “คุณดูจากแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ได้เลยว่าในขณะนั้นมีคนใช้แอปพลิเคชันกี่คน และพวกเขาใช้แอปพลิเคชันเหล่านั้นในปริมาณมากน้อยแค่ไหน” Ben กล่าว “ซึ่งถ้าหากเป็นการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ คุณก็จะดูได้ด้วยว่ามีปริมาณมากแค่ไหนที่หมุนเวียนอยู่ในระบบในแต่ละวัน คุณจึงประเมินการนำไปใช้และปริมาณการใช้แบบเรียลไทม์ได้”

นี่เป็นเพียงเส้นทางเริ่มต้นเท่านั้น

Ben มองเห็นโอกาสครั้งใหญ่จากเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถสร้างระบบการเงินที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าและเข้าถึงได้มากขึ้น  หรือเป็นระบบการเงินในแบบที่เขาเปรียบเทียบว่าเป็น “ประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกับ Amazon แบบฉบับการเงิน” เขาได้ชี้ให้เห็นด้วยว่า เครื่องมือเหล่านี้ใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความรู้เฉพาะด้านเสมอไป “ก็เหมือนกับเวลาที่คุณส่งอีเมลเลยครับ คุณก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจว่า SMTP ทำงานอย่างไร” เขากล่าว “หรือเวลาเข้าเว็บไซต์ คุณก็ไม่ต้องมานึกถึง HTTP เพราะรายละเอียดเชิงลึกเหล่านั้นถูกออกแบบมาให้พร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว ซึ่งในปัจจุบันนี้ เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกที่การเงินและตลาดทุนจะดำเนินไปบนบล็อกเชน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องนึกถึงด้วยซ้ำว่าบล็อกเชนเป็นอย่างไร”

ดาวน์โหลดแอป