ข่าวสารผ่านบล็อก #7: ทำความเข้าใจการ Yield Farming และความก้าวหน้าล่าสุดใน DeFi
ข่าวสารผ่านบล็อกของ Coinbase จะมาไขความกระจ่างของข้อสงสัยประเด็นหลักๆ ในโลกของเงินดิจิทัล และในฉบับนี้ Justin Mart จะมาเจาะลึกเกี่ยวกับพัฒนาการที่รวดเร็วของ DeFi และการเกิด “Yield Farming” รวมถึงข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ ในโลกของเงินดิจิทัล
ลงชื่อสมัครใช้ Coinbase เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในระบบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่นี้
DeFi และปรากฏการณ์ Yield Farming
การที่ตัวเลขในทุกมาตรวัดของโปรโตคอล DeFi พุ่งสูงขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา จนทำให้ Total Value Locked (TVL) ทะยานเกิน 3 พันล้านดอลลาร์นั้น เป็นผลมาจากการเปิดตัวโทเค็นการควบคุมของ Compound ($COMP) และการทำ “Yield Farming” ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น
Yield Farming คืออะไร
โปรโตคอลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบกระจายอำนาจ และสำหรับเครือข่ายระดับฐาน (เช่น บิตคอยน์และอีเธอร์เรียม) การกระจายอำนาจจะต้องอาศัย Proof of Work ที่ทุกคนสามารถขุดและรับ BTC หรือ ETH เป็นค่าตอบแทนได้ จากการช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับเครือข่าย ซึ่งวิธีดังกล่าวช่วยให้การควบคุมเครือข่ายเป็นประชาธิปไตยอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย (โดยหนึ่ง CPU เท่ากับหนึ่งเสียงโหวต)
แล้วโครงการที่สร้างขึ้นบนอีเธอร์เรียมจะมีลักษณะเป็นแบบกระจายอำนาจได้อย่างไร ส่วนหนึ่งจะมาจากการกระจายอำนาจการควบคุมในรูปแบบของโทเค็นที่แจกจ่ายให้กับผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้กลายมาเป็นผู้มีส่วนได้เสียได้จริง ซึ่งนี่ก็คือสิ่งที่ Compound (โปรโตคอลการกู้ยืม/ปล่อยกู้แบบอิสระ) ได้บุกเบิกเอาไว้นั่นเอง โดยแต่ละโครงการจะปล่อยโทเค็น $COMP ซึ่งจะให้สิทธิ์การควบคุมโปรโตคอล Compound แก่ผู้ใช้ในเครือข่าย โดยสิทธิ์นั้นจะแบ่งตามสัดส่วนการใช้งานโปรโตคอลของผู้ใช้แต่ละราย
ฟังดูดีใช่ไหม แต่สิ่งที่ต้องสังเกตนั้นมีอยู่สองข้อคือ
โทเค็นการควบคุม $COMP มีการคงมูลค่าไว้ในตัว Compound เป็นโปรโตคอล DeFi ชั้นนำเพื่อการกู้ยืม/ปล่อยกู้ และสิทธิ์การควบคุมเครือข่ายนี้ก็มีประสิทธิภาพมาก
การกระจาย $COMP แบบแบ่งตามสัดส่วนให้กับผู้ใช้โปรโตคอลนั้นนับเป็นการให้ผลตอบแทนแบบฟรี ถือเป็นโบนัสเพิ่มเติมที่มอบให้จากการใช้ Compound
เมื่อโทเค็น $COMP ถูกปล่อยออกไปแล้ว มูลค่าของโทเค็นนี้จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการที่ Compound เป็นโปรโตคอลอันดับต้นๆ ในระบบนิเวศ DeFi ซึ่งผู้คนในชุมชนก็จะทราบโดยทันทีว่า การเพิ่มสินทรัพย์ลงใน Compound และ/หรือการกู้ยืมสินทรัพย์จากโปรโตคอลนี้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการกระจายโทเค็น $COMP เพิ่มขึ้น (และเมื่อถึงเวลาหนึ่ง อัตราร้อยละต่อปีอาจเพิ่มขึ้นกว่า 100%)
ดังนั้น แนวทางของการใช้โปรโตคอลเพื่อให้ได้รับโทเค็นภายในของแพลตฟอร์มนั้น จึงเรียกว่าการ “Yield Farming” หรือการฟาร์มผลตอบแทนนั่นเอง
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Compound
การทำ Yield Farming ทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่ Compound เป็นจำนวนมาก ซึ่งในหนึ่งสัปดาห์ช่วงกลางเดือนมิถุนายน มีเงินทุนไหลเข้าสู่ Compound เกือบครึ่งพันล้าน ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้ (TVL) พุ่งขึ้นจาก 100 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสูงสุดที่เกิน 1.7 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว โดยที่ $COMP เองก็เริ่มมีการซื้อขายที่ราวๆ 80 ดอลลาร์ จากนั้นตัวเลขก็พุ่งขึ้นจนมีการซื้อขายกันมากกว่า 300 ดอลลาร์แล้ว