ความเคลื่อนไหวประจำสัปดาห์ของราคาบิตคอยน์: 22-28 พ.ย.
หลังจากแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าหกสัปดาห์ติดต่อกัน ราคาของบิตคอยน์ก็เข้าใกล้สถิติสูงสุดตลอดกาล ก่อนจะตกลงมาจนต่ำกว่า $17,000 ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ แล้วราคาของบิตคอยน์จะยังมีโอกาสทำลายสถิติเดิมหรือไม่ ลองดูข้อมูลที่มีประโยชน์ที่คุณควรทราบจากรายงานประจำสัปด าห์โดยนักวิจัยของ Coinbase เพื่อให้ตัดสินซื้อขายได้อย่างรอบคอบ
เผยแพร่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2020
ภาพรวม
ตลอดช่วงเวลาเกือบเจ็ดสัปดาห์ติดต่อกัน ราคาของบิตคอยน์ค่อยๆ ไต่ขึ้นไปสู่สถิติสูงสุดที่เคยทำได้ ในช่วงสามถึงสี่วันแรกของสัปดาห์ที่แล้ว ราคาของบิตคอยน์ไต่ขึ้นไปถึง $19,000 และดูท่าว่าใกล้จะทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ได้แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ราคาพุ่งสูงถึงระดับนี้ นับตั้งแต่ช่วงตลาดกระทิงที่พลิกประวัติศาสตร์ของบิตคอยน์เมื่อปลายปี 2017 แต่เมื่อถึงช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ราคาของบิตคอยน์ก็ตกลง 11 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง $17,100 และเมื่อคืนนี้ราคาก็ค่อยๆ ไต่กลับขึ้นไปอ ีกครั้ง แต่การที่ราคาตกลงไปนั้นทำให้นักลงทุนจำนวนมากเกิดข้อสงสัยอยู่สองข้อคือ อะไรที่ทำให้ราคาลดลง และสถานการณ์ราคาที่ลดต่ำลงนี้จะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวหรือไม่
ประเด็นสำคัญ
ในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่เช่นกัน ระหว่างที่รายงานนี้เผยแพร่ออกไปในวันเสาร์ มูลค่าตามราคาตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดก็ดีดตัวกลับขึ้นไปที่ 5.25 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงเพียง 1% ในสัปดาห์นี้ ตลอดช่วงเวลาของปี 2020 ความเคลื่อนไหวเด่นๆ ของบิตคอยน์ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากความสนใจจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ที่คาดไม่ถึง ทั้งจากกองทุนยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีและด้านอื่นๆ ที่หันมาสนใจเงินดิจิทัลในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เช่น Paul Tudor Jones และ Stanley Druckenmiller ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเฮดจ์ฟันด์ที่ได้เพิ่มบิตคอยน์ลงในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง รวมถึงบริษัทมหาชนอย่าง Square และ Microstrategy ที่ใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองในงบดุลของบริษัท
ดังนั้นเราจึงไม่แปลกใจที่ได้เห็นสภาพคล่องของบริษัทในสหรัฐฯ ลดลงในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ ซึ่งสภาพคล่องดังกล่าวก็คือเงินที่หมุนเวียนเข้าออกในตลาดเงินดิจิทัล สถานการณ์นี้ทำให้เราตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันจันทร์ หลังจ ากที่ทุกคนกลับเข้ามาในตลาดแล้ว ผู้คนจะมองว่าการปรับลดลงของราคาบิตคอยน์เป็นโอกาสดีที่จะซื้อเพิ่มหรือไม่
แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร นักลงทุนที่มีทุนหนา ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อการปรับขึ้นของราคาบิตคอยน์นั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดความสนใจในบิตคอยน์ กลับกัน ในแต่ละสัปดาห์มีรายงานเกี่ยวกับข้อตกลงทางธุรกิจและการลงทุนในเงินดิจิทัลครั้งยิ่งใหญ่ออกมาอยู่เรื่อยๆ ซึ่ง Coinbase เองก็สังเกตเห็นว่ามีลูกค้าจากสถาบันและหน่วยงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยตลอดสี่วัน (23 ถึง 26 พฤศจิกายน) ก็มีจำนวนเงินกว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน และสี่วันดังกล่าวก็อยู่ใน 10 อันดับของวันที่มีการซื้อขายสูงสุดตลอดกาลในแพลตฟอร์มของเราด้วย
ช่วงเทศกาลขอบคุณ พระเจ้าเองก็เป็นช่วงเวลาที่ตลาดคึกคักอย่างไม่คาดคิดสำหรับบริการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ (OTC) ของเรา ซึ่งเป็นการดูแลและจัดการธุรกรรมหลักๆ กับลูกค้าในนามสถาบันและหน่วยงานต่างๆ เราสังเกตเห็นถึงข้อดีที่น่าดึงดูดใจหลายๆ ข้อจากการลดลงของราคาในช่วงเทศกาล ซึ่งทำให้บิตคอยน์อยู่ในจุดที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น และเรายังสังเกตเห็นด้วยว่าบริษัทที่ตั้งต้นจากธุรกิจด้านเงินดิจิทัลเริ่มเปลี่ยนจากการลงทุนเล็กๆ น้อยๆ ในเหรียญ Alt Coin มาเป็นการลงทุนในบิตคอยน์และอีเธอร์เรียม
ในขณะเดียวกัน บริษัทผู้ให้บริการด้านการลงทุนรายใหญ่ในนิวยอร์กอย่าง Guggenheim Partners ได้เผยถึงแผนในการลงทุนเป็นจ ำนวนเงินราว 530 ล้านดอลลาร์ใน Grayscale Bitcoin Trust กองทุนที่ลงทุนในบิตคอยน์โดยเฉพาะและบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (หากดูจากกราฟด้านล่าง “AUM” ย่อมาจาก “Assets Under Management” หรือสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ) ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน
นอกจากจำนวนของการลงทุนจากสถาบันและองค์กรต่างๆ ซึ่งลดลงอย่างไม่น่าแปลกใจในช่วงวันหยุดเทศกาลแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการลดลงของราคาอาจเป็นการที่ OKEx กลับมาเปิดอีกครั้ง ซึ่งเ ป็นตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนจากจีนที่มีปัญหาด้านบริการและเป็นสาเหตุให้การถอนออกหยุดชะงักไปในช่วงหลายเดือนที่แล้ว ในวันพฤหัสบดีมีการถอนออกกลับมาให้เห็นเป็นครั้งแรกในช่วงห้าสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีลูกค้าที่ไม่พึงพอใจจำนวนมากที่แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลไปเป็นเงินจริง ส่งผลให้อุปทานของบิตคอยน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวันหยุดยาวนี้ และยังส่งผลให้สินทรัพย์สภาพคล่องที่มีอยู่แล้วลดลงอีกด้วย ปัจจัยทั้งสองนี้คือหมัดเด็ดที่เราเชื่อว่าอย่างน้อยก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาชะลอตัว
กลับมาที่ประเด็นหลักของเราที่ว่า เพราะอะไรนักลงทุนในนามสถาบันและหน่วยงานจึงสนใจบิตคอยน์ขนาดนี้ เหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะปัญหาเงินเฟ้อ จากการที่ธนาคารกลางและรัฐบาลในหลา ยประเทศได้เพิ่มเงินใหม่จำนวนหลักล้านล้านดอลลาร์ เยน และยูโรอย่างไม่คาดคิดมาก่อน บิตคอยน์ที่เป็นแหล่งจัดเก็บมูลค่าซึ่งมีความใกล้เคียงกับทองคำจึงกลายมาเป็นทางเลือกที่จะรับมือกับปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าบิตคอยน์จะทำสถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เรื่อยๆ แต่ราคาทองคำกลับชะลอตัวอยู่ที่ $1,787 ต่อออนซ์มาเป็นเวลาหลายเดือน ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งโดยปกติแล้ว ทองคำและบิตคอยน์จะมีทิศทางที่ไปด้วยกันอยู่บ้าง อีกคำถามหนึ่งที่เราต้องหาคำตอบกันต่อไปในสัปดาห์อื่นๆ คือ เพราะเหตุใดทองคำถึงไม่อยู่ในช่วงขาขึ้นเหมือนบิตคอยน์ แล้วบิตคอยน์จะมีโอกาสฉกฉวยความนิยมจากทองคำมาได้หรือไม่
ในสัปดาห์นี้ Bloomberg รายงานว่า “บิตคอยน์พุ่งทะยานจนทำสถิติสูงสุด ในขณะเดียวกันกับที่เงินจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ หลายพันดอลลาร์ไหลออกจากตลาดทองคำ… ประเด็นที่มีการพูดถึงอย่างร้อนแรงในตอนนี้คือประเด็นที่ว่า สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะเอาชนะทองคำได้หรือไม่ ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและสินทรัพย์ที่สร้างความแตกต่างในพอร์ตการลงทุนในอนาคต”
แนวโน้มในโลกโซเชียล
มหาเศรษฐีเฮดจ์ฟันด์หลายๆ คนเป็นเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่กำลังจับตามองบิตคอยน์แทนที่ทองคำ (หรือควบคู่ไปกับทองคำด ้วย) ตัวเลขของการค้นหาคำว่า “ซื้อบิตคอยน์” และ “ซื้อทองคำ” ใน Google จากทั่วโลกในสัปดาห์นี้ไม่ต่างจากสถิติเดิมมากนัก
ตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ความสนใจในการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงขาขึ้นเมื่อปลายปี 2017 อยู่มาก จึงอาจกล่าวได้ว่า ความคืบหน้าล่าสุดของบิตคอยน์คงจะยังไม่สามารถสร้างความนิยมในกระแสหลักให้กับบิตคอยน์ได้ในขณะนี้ และถ้าหากราคาบิตคอยน์ยังคงไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ ประเด็นที่น่าจับตามองต่อไปก็คือ บิตคอยน์จะส ามารถจับความสนใจจากกระแสหลักได้เมื่อไหร่ (และความสนใจดังกล่าวจะส่งผลต่อราคาอย่างไร)
ต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่
ข่าวต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของข่าวมาแรงประจำสัปดาห์เกี่ยวกับเงินดิจิทัล แนะนำโดยทีมวิเคราะห์ของเรา
